การรีไฟแนนซ์รถยนต์อย่างไรให้มีประสิทธิ์ภาพมากที่สุด

การรีไฟแนนซ์รถยนต์อย่างไรให้มีประสิทธิ์ภาพมากที่สุด

     ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถยนต์เป็นปัจจัยที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ในชีวิตไปเสียแล้วการีไฟแนนซ์รถยนต์ก็เช่นกัน ในสมัยก่อนมีคนบอกว่ารถยนต์เป็นปัจจัยที่ 5 ในสังคมสมัยนั้น แต่ในสมัยนี้คงจะเป็นโทรศัพท์มือถือมากกว่า  แต่แม้กระนั้นก็ตาม ในสังคมไทยที่ระบบขนส่งสาธารณะยังไม่ดีพอ ใครๆที่พอมีเงิน มีสตางค์ หรือหลายๆคนที่ไม่มีเงินก็ตาม ก็อยากจะซื้อรถยนต์เอาไว้ในครอบครอง แต่โดยส่วนมากแล้ว มีไม่กี่คนหรอก ที่มีเงินเพียงพอที่จะซื้อของแพงๆ อย่างรถยนต์ได้ส่วนใหญ่แล้วก็ต้องซื้อผ่อนกันทั้งนั้น เมื่อผ่อนไปๆ ก็มีการเดือดร้อนบ้าง ใช้คืนไม่ทันบ้าง ก็ต้องมีการรีไฟแนนซ์รถยนต์กันเป็นธรรมดา ทั้งนี้ ทั้งนั้น ไม่ว่าจะใครหน้าไหนก็ตาม

  หลักการรีไฟแนนซ์รถยนต์

     หลักการในการเลือกรีไฟแนนซ์รถยนต์ เมื่อมีการผ่อนรถมากขึ้น ปัญหาต่างๆ ก็จะตามมามากขึ้น เหตุผลที่คนเราจะทำการรีไฟแนนซ์รถยนต์มีไม่กี่ประการด้วยกัน ไม่แน่ใจว่าที่เขาบอกว่า เศรษฐกิจไม่ดี เศรษฐกิจไม่ดีนั้น มันจริงหรือเปล่า เห็นยอดขายรถยนต์หลายบริษัทก็ยังดีอยู่ ที่ล่าสุดได้ยินข่าว บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่รายหนึ่งของโลก ปลดพนักงานนั้น ก็เป็นเรื่องของทั้งโลก เรื่องของประเทศอื่น ไม่ได้เกี่ยวกับประเทศไทยเลย ถ้าพูดถึงในประเทศไทยช่วงนี้ ธุรกิจที่ดูแย่ก็คงเป็นพวกโรงพยาบาลเสียมากกว่า เรียกว่าหุ้นทุกตัวในกระดานที่เป็นอยู่ในหมวดหมู่ของโรงพยาบาลนั้น ตกกันระนาว บางตัวก็ตกกันสี่สิบกว่า เปอร์เซ็นต์เลยก็มี ซึ่งก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับธุรกิจรถยนต์เลยด้วยซ้ำ เท่าที่เห็นยังจะดูทรงๆกันอยู่นะธุรกิจรถยนต์นี่ สถิติของการรีไฟแนนซ์รถยนต์ ไม่ได้มีทีท่าว่าจะเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด เพราะการรีไฟแนนซ์รถยนต์นี้ถือเป็นดัชนีวัดอย่างหนึ่งว่า เศรษฐกิจเริ่มมีปัญหาแล้ว เพราะถ้าคนเริ่มหาหนทาง หาช่องทาง หาโอกาส รีไฟแนนซ์รถยนต์ กันมาก แปลว่า เริ่มจะไม่ไหวแล้ว ต้องมองหา ต้องขยับขยายกันแล้ว ยิ่งถ้าเกิดว่า ประเทศไหนช่วงไหนมีการรีไฟแนนซ์รถยนต์กันมากๆ เข้าอาจกลายเป็นปัญหา ระดับชาติหนี้ เน่า หนี้เสีย เศรษฐกิจพังกันไปเลยก็ได้ และยิ่งหากจะบวกว่า มีการรีไฟแนนซ์บ้านกันมากยิ่งขึ้นไปอีก นี่ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะตัวนี้ล่ะตัวสำคัญ ตัวทำบ้านล่มจม เศรษฐกิจล่มจมกันมาหลายประเทศแล้ว หากประเทศไหน รัฐบาลไหน ปล่อยให้มีการสถิติการรีไฟแนนซ์รถยนต์ หรือรีไฟแนนซ์บ้าน กันมากขึ้นๆ

     โดยที่ไม่ทำอะไรเลย ล่ะก็ รับรองว่า ประเทศนั้นจะต้องล่มสลายในเชิงเศรษฐกิจไปไม่ช้าก็เร็ว แต่สิ่งเหล่านี้ดูทรงแล้ว ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับประเทศไทยง่ายๆ หรือในเร็ววัน เพราะล่าสุด เห็นเปิดตัวขายคอนโดแห่งหนึ่งแถวลาดพร้าว ยังมีคนแห่มาจองคิว เอาใบจองกันแน่นหนาไปหมด ถ้านี่คือความต้องการจริงๆก็ดีไป แต่ถ้าไม่ใช่มาต่อคิวเอาแต่ใบจองกัน แล้วก็ไปแห่ขายทำกำไรระยะสั้น กัน อันนี้น่ากลัวมาก น่ากลัวกว่าปัญหารีไฟแนนซ์รถยนต์ เป็นไหนๆ เพราะว่า ถ้าเกิดเศรษฐกิจไม่ดีจริง ไปขายใบจองไม่ได้ ก็ต้องมานั่งผ่อนไปๆ เสร็จแล้ว เกิดผ่อนไม่ไหวขึ้นมาเพราะสายป่านสั้นก็ทิ้งใบจองกัน ห้องเขาก็ขายไม่ได้ คนที่ต้องการจริงๆ ก็ต้องซื้อกันในราคาที่แพงกว่าความเป็นจริง กลายเป็นความต้องการที่มาซื้อ กลายเป็น ความต้องการที่ไม่ใช่ของจริง ไม่ได้ต้องการพักอาศัยจริงๆ หรือที่ศัพท์ในเชิงการซื้อขาย อสังหาริมทรัพย์ หรือศัพท์ในเชิง เศรษฐสาสตร์เขาเรียกว่า ดีมานต์เทียม นั่นเอง

     ดังนั้นการรีไฟแนนซ์รถยนต์หรือรีไฟแนนซ์ต่างสิ่งเหล่านี้เป็นพิษร้ายต่อเศรษฐกิจในระยะยาว หากไม่ทำอะไรแล้วล่ะก็ หากไม่มีมาตรการวัดว่า อะไรคือดีมานต์จริง หรือดีมานต์เทียมแล้วล่ะก็ รับรองว่า ปัญหาน่ากลัวๆ จะเกิดขึ้นมา ไม่รู้จักหยุดหย่อนแน่นอน