ขั้นตอนการจัดไฟแนนซ์รถยนต์

ขั้นตอนการจัดไฟแนนซ์รถยนต์

      การจัดไฟแนนซ์รถยนต์ ปัจจุบันรถยนต์เป็นเสมือนปัจจัยที่ 5 ของคนโดยส่วนใหญ่ กอปรกับที่ถนนหนทางที่ใช้เดินทางก็มีความสะดวกสบายมากขึ้น และสามารถเดินทางเชื่อมต่อจุดไปได้ทุกหนทุกแห่งทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ทำให้รถยนต์จึงกลายเป็นเรื่องของความจำเป็นในไลฟ์สไตล์ไปด้วย และการที่จะมีรถยนต์สักคันไว้ใช้ หากไม่มีเงินก้อนเพียงพอที่จะซื้อหามาไว้ในครอบครอง ก็จะต้องอาศัยเงินกู้จากแหล่งเงินต่างๆ เพื่อมาเช่าซื้อรถยนต์คันที่ได้เลือกไว้แล้ว ซึ่งก็คือการขอจัดไฟแนนซ์รถยนต์นั่นเอง ซึ่งจะเป็นการทำให้ผู้อยากมีรถยนต์เป็นของตนเองสามารถมีได้ง่ายขึ้น

การจัดไฟแนนซ์รถยนต์หมายถึงอะไร ?

        การจัดไฟแนนซ์รถยนต์ก็เปรียบเสมือนการกู้เงินผ่านแหล่งเงินต่างๆ เพื่อมาซื้อรถคันที่ตัวเองได้เลือกไว้แล้ว แต่มีหลักการที่แตกต่างกันออกไป โดยการพิจารณาขอไฟแนนซ์นั้นจะผ่านหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขนโยบายของทางผู้บริหารของบริษัทนั้นๆ กล่าวคือ ลักษณะของการจัดไฟแนนซ์รถยนต์ก็จะอยู่ในลักษณะของการเช่าซื้อ ซึ่งก็คือ ตัวผู้ขับเองไม่ใช่เจ้าของรถ แต่จะเรียกว่า ผู้เช่า ซึ่งจำเป็นที่จะต้องจ่ายค่างวดพร้อมกับดอกเบี้ยให้ครบตามกำหนดสัญญา เมื่อจ่ายครบแล้ว จึงจะได้เป็นเจ้าของรถอย่างสมบูรณ์โดยทันที

      การจัดไฟแนนซ์รถยนต์ตามที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้นว่าหลักการในการพิจารณาขอไฟแนนซ์ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านนั้นมีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับนโยบายของบริษัทนั้นๆ ซึ่งประเภทของการจัดไฟแนนซ์รถยนต์นั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ด้วยกัน ได้แก่

  1. การจัดไฟแนนซ์รถยนต์จากบริษัทขายรถยนต์โดยตรง ซึ่งก็เปรียบเสมือนการเช่าซื้อรถจากผู้ขายหรือตัวแทนจำหน่ายโดยตรง ไม่ต้องผ่านตัวกลาง ซึ่งเป็นเทคนิคการส่งเสริมการขายของบริษัทจำหน่ายรถที่ถือได้ว่าประสบความสำเร็จ เพราะทำให้ง่ายต่อการซื้อขายมากขึ้น และส่วนใหญ่จะผ่านการอนุมัติขอไฟแนนซ์ได้ง่ายด้วย เช่นToyota Leasing, BMW Leasing, Mercedes-Benz Leasing และอีกหลายบริษัท
  2. การจัดไฟแนนซ์เพื่อซื้อรถยนต์มือสอง ก็ได้รับความนิยมมากเช่นกัน เพราะมีอัตราการผ่อนจ่ายต่องวดที่ไม่สูงมากนัก ซึ่งลักษณะการจัดไฟแนนซ์รถยืนต์มือสองนี้ จะมีอยู่ 2 ลักษณะ คือ ทั้งการจัดไฟแนนซ์รถยนต์จากผู้จำหน่ายรถยนต์มือสองโดยตรง ซึ่งจะมีบริการจากสถานบันการเงินต่างๆ คอยสนับสนุนให้ และอีกลักษณะคือ การจัดไฟแนนซ์สำหรับรถที่ซื้อขายกันเองระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายซึ่งอาจจะให้แหล่งเงิน เช่น ธนาคารมาช่วยบริการในการจัดไฟแนนซ์รถยนต์ให้ได้เช่นกัน

      จากที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จะเห็นได้ว่าการจัดไฟแนนซ์รถยนต์เป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่งสำหรับคนที่มีความฝันที่จะมี รถยนต์เป็นของตนเองได้ง่ายขึ้น ซึ่งวิธีการขอไฟแนนซ์นั้น ผู้ซื้อจำเป็นต้องเลือกประเภทของสัญญาไฟแนนซ์ให้ดีด้วย ซึ่งมีให้เลือก 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทสินเชื่อเช่าซื้อ และลีสซิ่ง ซึ่งทั้ง  2 สัญญานี้จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของลักษณะสัญญาและอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับบริษัทรับจัดไฟแนนซ์ว่าจะให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับเท่าใด ตามนโยบายของบริษัทนั้นๆ

      การจัดไฟแนนซ์รถยนต์ประเภทสินเชื่อเช่าซื้อนั้น ผู้เช่าซื้อจะยังคงไม่ได้กรรมสิทธิ์ในรถยนต์คันนั้นจนกว่าจะชำระเงินตามค่างวดจนครบกำหนดสัญญา โดยจะคิดอัตราดอกเบี้ยในรูปแบบของการคิดค่าดอกเบี้ยที่คงที่หรือ Flat Rate เมื่อชำระครบตามสัญญาแล้วจึงจะมีกรรมสิทธิ์ครอบครองรถยนต์โดยสมบูรณ์ แต่ผู้เช่าซื้อสามารถนำรถยนต์ไปใช้ได้ทันทีขณะที่จ่ายค่างวด ซึ่งก็จะคล้ายกับสินเชื่อประเภทบัตรเครดิต หรือสินเชื่อเงินผ่อนๆ ทั่วไปนั่นเอง

     การจัดไฟแนนซ์รถยนต์ประเภทลีสซิ่งนั้น ก็จะมีความคล้ายกับประเภทสินเชื่อเช่าซื้อ แต่เมื่อผู้เช่าซื้อชำระค่างวดโดยจะคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก หรือ Effective Rate จนครบตามกำหนดสัญญาไว้แล้ว ผู้เช่าซื้อสามารถมีสิทธิ์ที่จะต่อสัญญาเช่าต่อไป หรือส่งรถยนต์ดังกล่าวไปยังรายอื่นได้ด้วย ซึ่งโดยปกติสัญญาเช่าแบบลีสชิ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นแบบนิติบุคคลมากกว่า

      เมื่อได้ทราบถึงความหมายขอการจัดไฟแนนซ์รถยนต์ วิธีการจัดไฟแนนซ์รถยนต์ ประเภทของการจัดไฟแนนซ์รถยนต์ ตามที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น จะเห็นได้ว่าไม่ใช่เรื่องยากเกินกว่าที่จะทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจที่จะทำการขอไฟแนนซ์ใดๆ เพื่อซื้อรถยนต์ในฝันสักคัน และหากได้ทำการยื่นเอกสารอย่างครบถ้วนแล้วแก่สถาบันการเงินหรือบริษัทรับจัดไฟแนนซ์รถยนต์แล้ว ต่อไปก็เพียงแค่รอผลการอนุมัติว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน ซึ่งอาจจะใช้เวลาประมาณ 7 วันทำการ หรืออาจช้าหรือเร็วกว่านี้ ขึ้นอยู่กับนโยบายและการบริการของสถาบันการเงินและบริษัทรับจัดไฟแนนซ์รถยนต์นั้นๆ เพียงเท่านี้รถยนต์ที่คุณได้เลือกไว้ตามความต้องการก็จะเป็นของคุณได้ไม่ยาก แต่ถ้าหากสถาบันการเงินหรือบริษัทรับจัดไฟแนนซ์รถยนต์ที่ได้ยื่นเอกสารไปแล้วนั้น ไม่ผ่านการอนุมัติขอสินเชื่อไฟแนนซ์เช่าซื้อรถยนต์ ก็ลองเปลี่ยนการยื่นเอกสารขอไฟแนนซ์ไปที่อื่นๆ ดูก็ได้ เพราะในแต่ละสถาบันการเงินหรือบริษัทรับจัดไฟแนนซ์รถยนต์แต่ละแห่งนั้นก็มีนโยบายที่แตกต่างกันไป อย่างไรเสียก็คิดว่ายังมีโอกาสอยู่

      และเมื่อคุณได้ผ่านการอนุมัติการขอสินเชื่อเพื่อซื้อรถยนต์จากการจัดไฟแนนซ์รถยนต์แล้ว ก็อย่าลืมที่จะบริหารการเงินและค่าใช้จ่ายของคุณไว้สำหรับการจ่ายค่างวดรถยนต์ในแต่ละงวดด้วย เพื่อที่จะสามารถมีเงินจ่ายได้จนครบสัญญา และได้เป็นเจ้าของรถยนต์โดยสมบูรณ์